
(เวอร์ชั่นวิดีโอ) พุทธวิธีให้มีความจำดี "ทำอย่างไรจึงจะมีความจำดี ?" เขียนโดย อ.พร รัตนสุวรรณ : อ่านโดย.. อริยคุณ ชมรมผลดี : จัดทำเพื่อเป็นธรรมทานโดย.. "ธานีนุกูล คณิตวิชากุล"
ประสิทธิภาพของความจำ ส่งผลต่อการพัฒนาทั้งทางโลกและทางธรรม แต่น้อยคนจะรู้และเข้าใจกระบวนการให้เกิดความจำดีหรือไม่ดี ว่ามีหลักสำคัญที่เกี่ยวเนื่องในด้านจิตอย่างไร โดยเฉพาะในแง่จากคำสอนทางพุทธศาสนา คือเจตสิก สิ่งที่เกิดและดับพร้อมกับจิตทุกขณะ ๗ อย่าง ที่อธิบายกระบวนการแห่งจิตกับความจำได้ดีที่สุด
หากเข้าใจหลักสำคัญ ที่เป็นสัจธรรมแห่งจิตได้ถูกต้องครบถ้วน จะทำให้ได้หลักในการเสริมสร้างความจำให้ดีขึ้น จนถึงขั้นพัฒนาสมองให้เป็นดังเครื่องบันทึกที่เรียกค้นข้อมูลมาใช้งานได้อย่างถูกต้องแม้เพียงได้อ่านหรือฟังแค่ครั้งเดียว การเรียนทั้งวิชาทางโลกหรือทางธรรม ก็เสียเวลาน้อยลง ไม่น่าเบื่อ เกิดฉันทะในการศึกษาวิชาที่คนอื่นมองว่ายากได้ง่ายขึ้น
ภาวะที่จิตไม่เครียด มีความสุขกับการศึกษา ทำให้จิตเป็นกุศล เกิดสมาธิ ตรงกับหลักที่ว่า ความสุขเป็นเหตุใกล้ให้เกิดสมาธิ ซึ่งเป็นภาวะที่จิตพร้อมจะเข้าใจอะไรได้ง่ายและลึกซึ้ง ไม่ใช่สักแต่ว่าท่องจำได้ เมื่อรอบรู้เข้าใจอะไรง่าย จำได้แม่น ไม่สับสนในข้อมูล ความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมก็ย่อมเจริญตามไปด้วยโดยง่ายเช่นกัน
เนื้อหาช่วงต้นจะเป็นการอธิบายพื้นฐานที่จำเป็นต้องเข้าใจก่อน คือเรื่องเจตสิก ๗ อย่าง ซึ่งเป็นวิชาการขั้นสูงของพุทธ เป็นสัจธรรมคือความจริงในขั้นปรมัตถ์ ที่ผู้เริ่มศึกษาธรรมมักจะมองว่ายากและไม่พยายามศึกษา หรือแค่เจอคำศัพท์ก็พลอยอยากให้ถอดใจไปเสียก่อน ด้วยเหตุนี้ชาวพุทธจำนวนมากจึงเสียโอกาสในการเข้าถึงธรรมแท้ ที่มีการอธิบายในเชิงวิชาการแบบวิทยาศาสตร์ แต่พากันติดอยู่แค่คำสอนในขั้นพื้นฐาน ที่อาจเป็นเพียงการเปรียบเทียบ หรือใช้คำอธิบายให้เหมาะแก่จริตของบางคน ให้สอดคล้องกับความเชื่อในยุคสมัยนั้น เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น จึงทำให้หลายคนเข้าใจและมองศาสนาผิดไปจากความเป็นจริง
เมื่อใดก็ตามที่เจอธรรมที่รู้สึกว่ายาก หรือเป็นวิชาการเชิงลึก ควรอดทนฟังให้จบก่อนด้วยใจที่สบาย ตรงไหนไม่เข้าใจให้ข้ามไปก่อน ฟังผ่าน ๆ ให้จบ เพื่อจับภาพรวม อย่าพยายามเข้าใจให้ได้ทันทีในครั้งแรก
จิตที่กดดันตัวเองจะทำให้ยิ่งเข้าใจอะไรได้ยากขึ้น เมื่อกลับมาฟังซ้ำเป็นครั้งที่สองจะเข้าใจได้ดีขึ้น หากยังไม่เข้าใจจุดไหน ให้ฟังซ้ำเฉพาะจุดนั้นบ่อย ๆ หรือหาข้อมูลมาอ่านเสริม ที่ปัจจุบันหาได้ง่ายมากผ่านเน็ต จนเมื่อเข้าใจเบื้องต้นระดับหนึ่ง ก็ค่อยมาฟังทวนทั้งหมดอีกครั้ง ด้วยใจที่สบาย และฟังซ้ำเรื่อย ๆ เมื่อมีโอกาส จนกว่าจะเข้าใจ
การฟังธรรมบางเรื่อง อาจต้องรอเวลาหลายปีกว่าจะเข้าใจ เพราะต้องมีภูมิธรรมและบารมีด้านอื่นที่พร้อมพอด้วย สิ่งที่ทุกคนพิสูจน์ได้ชัดด้วยตนเองคือ เมื่อเวลาผ่านไปอาจหลายเดือน หรือหลายปี แล้วกลับมาฟังอีกรอบ จะพบว่าในอดีตที่เคยคิดว่าเข้าใจแล้ว เป็นความเข้าใจผิด หรือยังเข้าใจได้ไม่ดี ไม่ลึกซึ้ง ยังเข้าไม่ถึงความหมายแฝงอีกมากเท่ากับในปัจจุบัน
การฟังธรรมนั้นต่อให้ฟังแล้วไม่เข้าใจ แต่จะเกิดเป็นวิบากสะสมไว้ในจิตส่วนลึก เป็นคลังข้อมูลที่รอให้ดึงมาพิจารณาได้ในโอกาสต่อไป แม้ในชาติหน้า เกิดใหม่ก็สนใจธรรมและมีความเพียรในการฟังธรรม เข้าหาทางแห่งกุศลได้ง่ายขึ้น
อ.พร รัตนสุวรรณ อาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิแห่งมหาวิทยาลัยสงฆ์ของไทย ท่านเชี่ยวชาญทั้งด้านปริยัติและปฏิบัติ เป็นผู้แปลชำระพระไตรปิฎกอรรถกถา-ฎีกา ฉบับมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ผู้ก่อตั้งสำนักค้นคว้าทางวิญญาณ & ศูนย์พัฒนาศาสนาแคมป์สน ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญในการอบรมสมาธิวิปัสสนาให้แก่พระนิสิตของมหาจุฬาฯ มาจนถึงปัจจุบัน
ดูกิจกรรมบุญ&ร่วมจัดทำได้ที่ https://www.facebook.com/jz.net
0:00:00 แนะนำเนื้อหา พุทธวิธีให้มีความจำดี
0:05:18 ทำอย่างไรจะมีความจำดี บทนำ
0:07:50 เจตสิก 1.ผัสสะ กระทบอารมณ์
0:13:58 เจตสิก 2.เวทนา ความรู้สึกสุขทุกข์ฯ
0:14:56 เจตสิก 3.สัญญา กำหนดหมายในอารมณ์
0:17:18 เจตสิก 4.เจตนา ความตั้งใจ
0:20:03 เจตสิก 5.เอกัคคตา ความมีอารมณ์เดียว
0:22:46 เจตสิก 6.ชีวิตินทรีย์ ความมีชีวิต
0:24:55 เจตสิก 7.มนสิการ การเก็บไว้ในใจ
0:26:12 ประโยชน์แห่งความเข้าใจเจตสิก๗
0:27:49 สัญญา&มนสิการ สิ่งที่ต้องจำเป็นพิเศษ
0:36:30 เหตุจำดี 1.อย่าเก็บอารมณ์เสียไว้ในใจนาน
0:39:17 เหตุจำดี 2.รู้จักปล่อยวางอารมณ์ที่ดี
0:41:59 เหตุจำดี 3.หัดมีสติอยู่กับตัวเสมอ
0:48:41 เหตุจำดี 4.หัดคิดให้มีระเบียบ
0:52:27 เหตุจำดี 5.อย่าโลภเกินตัวในการเรียน
0:58:00 เหตุจำดี 6.สาธยายสวดมนต์ แบบถูกวิธี
1:02:42 อินทรีย์บริสุทธิ์ผ่องใส คือ?
1:10:23 กฏวิวัฒนาการสมอง&จิตใจ
1:13:15 รากฐานให้มีความจำดีอันวิเศษ
1:18:24 สรุป