
"จงอย่าขายบิทคอยน์ของคุณ"
ข้อความนี้เน้นย้ำคำแนะนำของ Michael Saylor (ผู้ร่วมก่อตั้ง MicroStrategy ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนที่ถือครอง BTC รายใหญ่ที่สุดในโลก) ที่ว่า การขาย Bitcoin อาจเป็นความผิดพลาดทางการเงินครั้งใหญ่ และส่งเสริมให้มีการสะสม Bitcoin ในระยะยาว
Bitcoin คืออะไร: Bitcoin ไม่ใช่แค่สินทรัพย์ดิจิทัล แต่เป็น ที่เก็บมูลค่า (Store of Value) และเป็นเครื่องมือในการสร้างความมั่งคั่งและอิสรภาพทางการเงินในระยะยาว
ปรัชญาการก่อตั้ง: Bitcoin ถูกสร้างขึ้นโดย Satoshi Nakamoto เพื่อเป็นระบบการเงินแบบกระจายอำนาจที่ ขาดแคลน (อุปทานคงที่ 21 ล้านหน่วย) ปลอดภัย และโปร่งใส เพื่อตอบโต้ความเปราะบางของสกุลเงิน Fiat และการควบคุมจากรัฐบาล/ธนาคารกลาง
การลงทุนระยะยาว:
อย่าขายเพราะกลัว: ผู้ที่ถือ Bitcoin ในระยะยาวจะได้รับผลตอบแทนสูงกว่าความผันผวนในระยะสั้น การตกต่ำของตลาดคือโอกาสที่ดีที่สุดในการสะสมเพิ่ม (ซื้อในราคาที่ลดลง)
กลยุทธ์ DCA: การใช้วินัยในการลงทุนอย่างสม่ำเสมอโดยไม่คำนึงถึงราคา (Dollar-Cost Averaging) ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มผลกำไรในระยะยาว
การดูแลตนเอง (Self-Custody):
"Not your Key, Not Your Coin": การฝาก Bitcoin ไว้กับ Exchange มีความเสี่ยง (การล้มละลาย, ถูกแฮ็ก, การจำกัดการถอน)
การใช้ Cold Wallet และควบคุมกุญแจส่วนตัว (Private Key) เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรับประกันว่าคุณเป็นเจ้าของความมั่งคั่งของคุณอย่างแท้จริง และไม่มีใครสามารถยึดไปได้
อนาคตของ Bitcoin:
Bitcoin ท้าทายคำทำนายในแง่ร้ายมานานกว่าทศวรรษ และปัจจุบันได้กลายเป็น 1 ใน 10 สินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของโลกตามมูลค่าตลาด
ความขาดแคลนและนโยบายการเงินที่ไม่เปลี่ยนแปลง ทำให้ Bitcoin ดึงดูดนักลงทุนสถาบันและรัฐบาลมากขึ้นเรื่อย ๆ และมีศักยภาพที่จะเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงสุดในอนาคต
ข้อความนี้สรุปว่า การสะสมและถือครอง Bitcoin ในระยะยาว คือการตัดสินใจที่ชาญฉลาดที่สุดเพื่อป้องกันความมั่งคั่งจากเงินเฟ้อและสร้างอิสรภาพทางการเงินในอนาคต