
ปลากระป๋องมีหลายตัวย่าพาก็มียี่ห้ออยู่ในใจ ในสมัยย่า ในเมื่อก่อนนั้นก็ได้มีปลากระป๋องแล้วแต่ไม่ได้อร่อยเหมือนทุกวันนี้ เมื่อก่อนปลาจะไม่ตัดหัว จะเอาแค่ใส้ออก ซื้อมาก็ไม่ได้กินเลย ต้องมายำก่อนเพื่อเพิ่มปริมาณให้กินได้เยอะขึ้น พ่อของย่านั้นหลังจากทำนาเสร็จพอก็ชอบเดินดูชมน่าว่ามีอะไรที่ต้องแก้ไขไหม ถือเป็นสิ่งที่หากินในตอนหน้าแร้ง เนื่องจากหาปลาไม่ค่อยได้
ปลาก้าง เป็นปลาที่คนโบราณเขาไม่กินกันเพราะมีความเชื่อที่ว่ากินแล้วหัวสั่น บางช่วงย่าพา ก็ไปหาปลากับเพื่อนๆ แกล้งกันกับเพื่อนบ้าง ตามประสาเด็กๆ แอบโยนปลาให้เพื่อน แล้วเพื่อนก็ดีใจว่ามีปลาโดนมา ย่าพากับเพื่อนอีกคนแบบขำเบาๆ อยู่หลังพุ่มไม้ ในช่วงที่ย่าพาเรียก เขาเรียนไม่จบเนื่องจาก ไม่ได้ไปโรงเรียน เหตุเพราะต้องไปเลี้ยงน้อง จนครูเห็นใจ ครูจึงให้หยุดเรียนแต่ก็จะให้ใบจบ เนื่องจากในช่วงนั้นเขาบังคับให้เรียนหนังสือ ย่าก็ยังจำชื่อครูได้หลายคนมาก การสอนของครูตอนนั้น จะสอนตามนักเรียกขึ้นไป ไม่ได้แบ่งระดับชั้น โรงเรียนตอนนั้นก็จะอยู่ที่วัด ให้เรียนที่ศาลา นั่งเรียนกับพื้น ไม่ได้มีห้องแบ่งชัดเจน เหล่านักเรียนตอนั้นยังไม่ได้ใช้สมุดอย่างแพร่หลาย เขียนโดยใช้กระดานกับช็อกที่เป็นสีขาว ในตอนนั้นยังไม่มีไฟฟ้าเขาถึง แต่ย่าไม่ได้บ่นถึงเรื่องร้อนเลย หลังจากโรงเรียนที่วัดในสร้างเสร็จ ย่าก็ย้ายมาเรียน โดยมีห้องแบ่งๆแล้ว ครู่ในสมัยก่อนนั้นดุกว่าตอนนี้มากจะลงโทษด้วยการตี หากเด็กดื้อ แน่นอนต้องมีคนไม่พอใจอยู่บ้างมีเกิดการว่าจะพ่อแม่บ้าง หลังๆครูเลยไม่ได้ตีนักเรียนมากนัก